คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีและภาษี
ในการดำเนินธุรกิจ บางครั้งบริษัทอาจพบว่าสินค้าในสต็อกบางรายการเกิดปัญหา เช่น
สินค้าชำรุดหรือมีตำหนิ
สินค้าล้าสมัยหรือตกรุ่น
สินค้าที่เสื่อมสภาพหรือหมดอายุการใช้งานทางการตลาด
ซึ่งทำให้ไม่สามารถจำหน่ายในราคาปกติได้ และอาจมีคำถามว่า สามารถขายสินค้าในราคาต่ำกว่าทุนได้หรือไม่?
✅ คำตอบคือ: “สามารถทำได้” — แต่ต้องมีเอกสารและเหตุผลรองรับอย่างถูกต้อง
📌 เงื่อนไขสำคัญที่ต้องพิจารณา:
สินค้านั้นต้องมีสภาพไม่สมบูรณ์จริง
เช่น แตก หัก มีตำหนิ หรือมีสภาพที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ในราคาปกติต้องมีเอกสารประกอบและหลักฐานที่ชัดเจน
ภาพถ่ายของสินค้า
รายงานตรวจสอบสภาพสินค้า
ใบเสนอราคาหรือใบขายราคาพิเศษ
เหตุผลทางธุรกิจ เช่น ต้องเคลียร์พื้นที่สต็อก, ปิดกิจการบางส่วน, ลดภาระภาษีสะสม
การขายราคาต่ำกว่าทุนต้องไม่เป็นการหลีกเลี่ยงภาษี
กรมสรรพากรมีสิทธิเข้ามาตรวจสอบ หากพบว่าการขายต่ำกว่าทุนเป็นการโอนทรัพย์สินระหว่างกันเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี บริษัทอาจถูกประเมินภาษีย้อนหลัง
📊 แนวปฏิบัติที่แนะนำ
รายละเอียด | คำแนะนำ |
---|---|
🔍 ประเมินสภาพสินค้า | ตรวจสอบและจัดทำรายการสินค้าที่มีปัญหา |
📸 จัดเก็บหลักฐาน | ถ่ายภาพสินค้าที่เสียหายหรือเสื่อมสภาพ |
📄 จัดทำรายงานอนุมัติภายใน | เสนอฝ่ายบริหารเพื่ออนุมัติการขายต่ำกว่าทุน |
🧾 ออกใบกำกับภาษีตามจริง | แม้ขายต่ำกว่าทุน ก็ต้องออกใบกำกับภาษีตามราคาที่ขายจริง |
📁 จัดเก็บเอกสารไว้อย่างครบถ้วน | เพื่อใช้เป็นหลักฐานกรณีตรวจสอบจากกรมสรรพากร |
💡 ข้อควรระวัง
ตามหลักเกณฑ์ตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดไว้ว่า ” กรณีโอนสินทรัพย์ ให้บริการ หรือให้กู้ยืมเงินโดยไม่มีค่าตอบแทน ค่าบริการหรือดอกเบี้ย หรือค่าตอบแทน ค่าบริการ หรือดอกเบี้ยต่ำกว่าราคาโดยไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจ ประเมินค่าตอบแทน ค่าบริการ หรือดอกเบี้ยนั้นตามราคาตลาดในวันที่โอน ให้บริการ หรือกู้ยืมเงิน”
ดังนั้นบริษัทใดต้องการขายสินค้า ที่มีตำหนิ สินค้าล้าสมัย หรือสินค้าตกรุ่น หรือสินค้าเสื่อมสภาพ ในราคาต่ำกว่าทุนของสินค้า ซึ่งมิใช่เป็นการทำลายสินค้า แต่เป็นการโอนทรัพย์สิน โดยมีค่าตอบแทนต่ำกว่าราคาตลาด หากได้มีการตรวจสอบสภาพสินค้าตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนดไว้ และได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจในการพิจารณาให้เป็นสินค้าใกล้หมดอายุ หมดอายุ ไม่ได้มาตรฐาน หรือเศษซากดังกล่าว พร้อมทั้งจะต้องมีบุคคลร่วมสังเกตการณ์ ประกอบด้วยฝ่ายคลังสินค้าและฝ่ายบัญชี โดยลงลายมือชื่อเป็นพยานในการขาย เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการบันทึกบัญชี และได้ขายสินค้าไปในราคาต่ำกว่าต้นทุน ถือได้ว่าบริษัทฯ โอนทรัพย์สินโดยมีค่าตอบแทนต่ำกว่าราคาตลาด โดยมีเหตุอันสมควรไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากร
ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีขายสินค้าต่ำกว่าราคาทุน
เลขที่หนังสือ | : กค 0811(กม)/134 |
วันที่ | : 29 มกราคม 2542 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการขายสินค้าในราคาต่ำกว่าต้นทุน |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 65 ทวิ (4), คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.79/2541 ฯ |
ข้อหารือ | : บริษัทฯ ประกอบกิจการผลิตอาหารทะเลแช่เยือกแข็งเพื่อการส่งออก ทุก ๆ ปี บริษัทฯ จะ มีสินค้าคงเหลือค้างสต๊อคเป็นจำนวนมาก ซึ่งประกอบด้วยสินค้าเหลือจากการส่งออกสินค้าไม่ได้มาตรฐาน สินค้าใกล้หมดอายุ พร้อมทั้งบรรจุภัณฑ์ และวัตถุดิบที่ไม่สามารถใช้ในการผลิต เนื่องจากมีการเปลี่ยนสูตร การผลิต เปลี่ยนรูปแบบ โดยปกติในปีที่ผ่าน ๆ มา บริษัทฯ จะทำหนังสือแจ้งขอทำลายสินค้าเหล่านี้ต่อ กรมสรรพากร พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้สอบบัญชีเข้าสังเกตการณ์ด้วย การทำลายสินค้าดังกล่าวจะใช้วิธีฝังดิน และเผาทิ้ง แต่สำหรับในปีนี้บริษัทฯ ประสงค์จะขายสินค้าใกล้หมดอายุ สินค้าหมดอายุ สินค้าที่เหลือจาก การส่งออก สินค้าไม่ได้มาตรฐาน และวัตถุดิบที่นำไปใช้ผลิตไม่ได้แล้ว โดยขายในราคาต่ำกว่าราคา ต้นทุน และขายบรรจุภัณฑ์ที่มีตำหนิไม่ใช้แล้วให้กับโรงงานต่าง ๆ ในราคาต่ำกว่าต้นทุนเพื่อนำไปรีไซเคิล พร้อมทั้งทำหนังสือแจ้งขอทำลายสินค้าตามวิธีดังกล่าวต่อสรรพากรจังหวัด และผู้สอบบัญชีให้เข้า สังเกตการณ์ จึงขอทราบว่า 1. การทำลายสินค้าโดยวิธีการขายดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ สามารถปฏิบัติได้หรือไม่ 2. หากปฏิบัติได้ วิธีที่แจ้งไว้ถูกต้องหรือไม่ อย่างไร 3. หากปฏิบัติไม่ได้ บริษัทฯ ควรทำอย่างไร จึงจะสามารถขายสินค้าในราคาต่ำกว่าต้นทุน ได้ 4. ทางบริษัทฯ มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น บริษัทสอบบัญชีสภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย ซึ่งบริษัทฯ เป็นสมาชิกอยู่เป็นผู้รับรอง กรมสรรพากรจะยอมรับ หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : 1. การลงบัญชีต้นทุนหรือตัดรายจ่ายของ ของเสียตามปกติ ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการ ผลิต ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนของผลิตภัณฑ์หน่วยที่ดีด้วย ส่วน ของเสียเกินปกติ ที่เกิดขึ้นจาก กระบวนการผลิตสินค้าที่เสื่อมคุณภาพ สินค้าที่มีตำหนิ สินค้าที่หมดสมัยนิยม สินค้าที่หมดอายุและเศษซาก หากบริษัทฯประสงค์จะทำลายสินค้าดังกล่าว โดยสามารถตัดเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิของ รอบระยะเวลาบัญชีที่ทำลายนั้นได้ บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามข้อ 3 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.79/2541 เรื่อง แนวทางปฏิบัติกรณีการทำลายของเสีย สินค้าที่เสื่อมคุณภาพ สินค้าที่มีตำหนิ สินค้าที่หมดสมัยนิยม สินค้าที่หมดอายุและเศษซาก ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 2. กรณีตามข้อเท็จจริง บริษัทฯ ประสงค์จะขายสินค้าใกล้หมดอายุ สินค้าหมดอายุ สินค้าที่ เหลือจากการส่งออก สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน วัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่มีตำหนิไม่สามารถนำไปใช้ใน การผลิต โดยขายในราคาต่ำกว่าต้นทุน ซึ่งมิใช่เป็นการทำลายสินค้า แต่เป็นการโอนทรัพย์สิน โดยมี ค่าตอบแทนต่ำกว่าราคาตลาด หากได้มีการตรวจสอบสภาพสินค้าตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนดไว้ และได้ รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจในการพิจารณาให้เป็นสินค้าใกล้หมดอายุ หมดอายุ ไม่ได้มาตรฐาน หรือเศษซาก ดังกล่าว พร้อมทั้งจะต้องมีบุคคลร่วมสังเกตการณ์ ประกอบด้วยฝ่ายคลังสินค้าและฝ่ายบัญชี โดย ลงลายมือชื่อเป็นพยานในการขาย เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการบันทึกบัญชี และได้ขายสินค้าไปในราคาต่ำ กว่าต้นทุน ถือได้ว่าบริษัทฯ โอนทรัพย์สินโดยมีค่าตอบแทนต่ำกว่าราคาตลาด โดยมีเหตุอันสมควร ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น บริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องให้บุคคลอื่นเป็น ผู้รับรองอีกแต่ประการใด |
📞 หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการวางแผนภาษี การขายสินค้าต่ำกว่าทุน หรือการจัดทำเอกสารบัญชี
ACC CONSULTING CO., LTD.
เราพร้อมให้คำปรึกษาทางบัญชีและภาษีอย่างมืออาชีพ
เพื่อช่วยให้คุณดำเนินธุรกิจอย่างมั่นใจ และถูกต้องตามกฎหมาย
✅ บริการตรวจสอบภาษี | ✅ ให้คำปรึกษาการวางแผนภาษี
✅ วางระบบบัญชีภายใน | ✅ Outsource บัญชีและการเงิน
Contact Us
Phone
02-114-7715
Web
https://www.accconsultingservice.co …
Inbox
http://m.me/100581915340875
Line
https://lin.ee/PhD3G7F
Mail
[email protected]