การเสียภาษีอากรของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
บริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) คืออะไร?
เรามาทำความรู้จัก BOI โดยที่ BOI ย่อมาจาก Board of Investment คือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจและส่งเสริมการลงทุนให้ชาวไทยและชาวต่างชาติที่ทำธุรกิจในประเทศไทย และการลงทุนของคนไทยในต่างประเทศ
สิทธิประโยชน์ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการลงทุน BOI
ม.31 วรรคแรก : ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (Cap วงเงิน)
ม.31 วรรคสอง : ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (ไม่จำกัดวงเงิน)
ม.31 วรรคสาม : ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ผลพลอยได้และเศษซาก
ม.31 วรรคสี่ : ผลขาดทุนยกไปใช้ภายหลังพ้นกำหนดเวลายกเว้นภาษี
ม.33 : กู๊ดวิลล์ลิขสิทธ์ อื่นๆ
ม.34 : ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับเงินปันผลจากกิจการ BOI
ม.35 (1) ลดหย่อนอัตราภาษีเงินได้ กึ่งหนึ่ง
ม.35 (2) หักรายจ่าย 2 เท่า (ขนส่ง ไฟฟ้า ประปา)
ม.35 (3) หักเงินลงทุนในการติดตั้งหรือก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก อีกร้อยละ 25 เพิ่มจากค่าเสื่อมฯ
ม.35 (4) หักเงินได้ 5% ของรายได้ส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากปี ก่อน (ไม่รวมค่าประกันภัยและค่าขนส่งนอกประเทศ)
รายได้ของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
- จำหน่ายผลิตภัณฑ์ การให้บริการ รวมทั้งรับจ้างผลิต สินค้าชนิดเดียวกัน
- จำหน่ายผลพลอยได้ สินค้ากึ่งสำเร็จรูปจากกระบวนการ ผลิตที่ได้รับการส่งเสริมฯ
- จำหน่ายครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ทรัพย์สินอื่น ที่ใช้ในกิจการที่ได้รับการส่งเสริม
- ดอกเบี้ยรับจากเงินฝากออมทรัพย์ ไม่เกินร้อยละ2ของ รายได้ที่ได้รับการส่งเสริมและต้องเบิกถอนโดยใช้สมุดคู่ฝาก
- รายได้อื่น ที่เกี่ยวเนื่องจากการได้รับการส่งเสริมฯ
ปัญหาการจัดทาบัญชีของกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน
- ไม่ได้แยกโครงสร้างประเภทบัญชี งบทดลอง
- ไม่เฉลี่ยค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นค่าใช้จ่าย BOIหรือ NON BOI
- เริ่มใช้สิทธิ์ไม่ถูกต้อง (วันที่เริ่มมีรายได้ครั้งแรก)
การคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
- กรณีประกอบกิจการทั้ง BOI และ NON BOI หรือ BOI หลาย โครงการ ต้องทำบัญชีแยกกัน
- รายจ่ายรายการใดไม่สามารถแยกจากกันได้ชัดแจ้ง และไม่มี เกณฑ์อื่นที่เฉลี่ยได้ ให้เฉลี่ยรายจ่ายตามส่วนของรายได้แต่ละ กิจการ
- รายได้จากดอกเบี้ยหรือกำไรจากการปริวรรตเงินตราแยกไม่ได้ ให้เฉลี่ยตามรายได้ของแต่ละกิจการ
- กำลังผลิตแยกไม่ได้ แบ่งรายได้ให้โครงการยกเว้นได้สิทธิเต็ม กำลังการผลิตก่อน ที่เหลือเป็ นของโครงการที่มีสิทธิน้อยกว่า
การคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิของกิจการ BOI และ NON-BOI
- กรณีที่ผลการดำเนินงานรวมมีกำไรสุทธิ
1.1 ถ้ามีกำไรสุทธิทั้งสองกิจการ เสียภาษีสำหรับกำไรสุทธิ จากกิจการ NON-BOI
1.2 ถ้ามีกำไรสุทธิจากกิจการ NON-BOI มากกว่า ผล ขาดทุนสุทธิจากกิจการ BOI เสียภาษีจากกำไรสุทธิรวม
1.3 ถ้ามีกำไรสุทธิจากกิจการ BOI มากกว่า ผลขาดทุนสุทธิ จากกิจการ NON-BOI ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับกำไรสุทธิรวม
- กรณีที่ผลการดำเนินงานรวมขาดทุนสุทธิ ผู้ได้รับการส่งเสริมไม่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ถึงแม้ว่ากิจการ NON-BOI จะมีกำไรสุทธิก็ตาม
ผลขาดทุนประจำปี ที่ได้รับการส่งเสริมของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
การนำผลขาดทุนประจำปีที่เกิดขึ้นระหว่างเวลาที่ได้รับ การส่งเสริมไปหักออกจากกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นภายหลัง ระยะเวลาที่ได้รับการส่งเสริม ให้ถือปฏิบัติดังนี้
- กรณีประกอบกิจการเฉพาะที่ได้รับการส่งเสริม
1.1 มีสิทธินำผลขาดทุนประจำปีที่เกิดขึ้น ระหว่างเวลาที่ได้รับการส่งเสริมไปหักออกจากกำไรสุทธิที่ เกิดขึ้นภายหลังระยะเวลาที่ได้รับการส่งเสริมไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันพ้นก าหนดเวลา
1.2 การนำผลขาดทุนประจำปีไปหักออกจาก กำไรสุทธิตาม 1.1 จะเลือกหักออกจากกำไรสุทธิของปีใดปี หนึ่งหรือหลายปีก็ได้
- กรณีประกอบกิจการทั้งที่ได้รับการส่งเสริมและ ไม่ได้รับการส่งเสริม
2.1 กิจการ BOI มีผลขาดทุนประจำปีและ กิจการ NON-BOI มีกำไรสุทธิ มีสิทธินำผลขาดทุนประจำปี ของกิจการ BOI ไปหักออกจากกำไรสุทธิของกิจการ NON-BOI ในระหว่างเวลาที่ได้รับการส่งเสริมตามมาตรา 65 ตรี (12) แห่งประมวลรัษฎากร
2.2 กิจการ BOI มีผลขาดทุนประจำปีและกิจการ NON-BOI มีกำไรสุทธิและมีผลขาดทุนสุทธิประจำปีสะสมยกมาจาก ปีก่อนต้องนำผลขาดทุนประจำปีสะสมยกมาปีก่อนของ กิจการ NON-BOI ไปหักออกจากกำไรสุทธิของกิจการ NON-BOI ก่อน ถ้ามีกำไรสุทธิเหลืออยู่จึงมีสิทธินำผลขาดทุนประจำปีของ กิจการ BOI ไปหักออกได้ในระหว่างเวลาที่ได้รับการส่งเสริม ตาม มาตรา 65 ตรี(12) แห่งประมวลรัษฎากร
2.3 กิจการมีสิทธินำผลขาดทุนประจำปี คงเหลือตาม 2.1 หรือ 2.2 ของกิจการ BOI เฉพาะ ส่วนที่เกินกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นระหว่างเวลาที่ได้รับการ ส่งเสริม ไปหักออกจากกำไรสุทธิภายหลังระยะเวลาที่ ได้รับการส่งเสริม มีกำหนดเวลาไม่เกิน 5 ปีนับแต่วัน พ้นกำหนด โดยมีสิทธิเลือกปฏิบัติตามข้อ 1.2
เงินปันผลจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
- เงินปันผลจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมซึ่ง ไต้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้รับยกเว้นไม่ ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ จะต้องเป็นเงินปัน ผลที่ผู้ได้รับการส่งเสริมจ่ายและผู้รับเงินปันผลได้รับใน ระหว่างระยะเวลาที่ผู้ไต้รับการส่งเสริม ไต้รับยกเว้น ภาษีเงินได้นิติบุคคลยกเว้นเงินปันผลที่จ่ายตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2560ให้จ่ายได้ภายใน 6 เดือนนับจากระยะเวลาที่หมดสิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้ฯ
- เงินปันผลที่ผู้รับ เป็นผูได้รับการยกเว้นภาษี เงินได้บุคคลธรรมดาหรือภาษีเงินได้นิติบุคคล ต้องเป็น เงินปันผลที่จ่ายจากกำไรสุทธิของกิจการที่ไต้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเท่านั้น
- กรณีประกอบกิจการทั้งกิจการ BOI และ NON-BOI กิจการจะจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิที่เกิด จากกิจการใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้ แต่ผู้ได้รับเงินปัน ผลจะไต้รับยกเว้นภาษีเงินไต้เฉพาะเงินปันผลที่จ่ายจาก กำไรสุทธิของกิจการ BOI เท่านั้น
กรณีที่มิได้ระบุว่าเงินปันผลจ่ายจากกำไรสุทธิ ของกิจการใด ให้เฉลี่ยเงินปันผลดังกล่าวตามส่วน ของกำไรสุทธิของกิจการ BOI และ NON-BOI